Ms. Maria & Mr. Singh ร้านอาหารอินเดีย-เม็กซิกันของเชฟกากั้นที่หยิบความรักของนายซิงห์กับนางสาวมาเรียมาเป็นตัวชูโรง

แค่เห็นอาหารก็อยากเจอคนทำ ต้องบอกแบบนั้นจริงๆ มันไม่ใช่แค่ความสวยของหน้าตาอาหาร แต่ด้วยการผสมผสานระหว่างวัฒนธรรมของอาหารอินเดียกับอาหารเม็กซิกันที่อยู่ในอาหารแต่ละจาน มันทำให้เราเกิดคำถามมากมาย อยากรู้ไปเสียหมดว่ามีเรื่องราวอะไรซ่อนอยู่ในแต่ละจานเหล่านี้บ้าง ยิ่งถ้าใครเคยไปกินอาหารตามข้างถนนในอินเดียจะคุ้นเคยกับอาหารว่าง Panipuri ที่เขาเข็นขายกันตามข้างทาง มันคือแผ่นแป้งกลมๆ ที่ด้านในมีลักษณะเป็นโพรง บรรจุอยู่ในถุงพลาสติกสูงท่วมหัววางไว้ตรงด้านข้างของรถเข็น พร้อมด้วยเครื่องเคียงสารพัดและน้ำซอสสูตรเฉพาะของ Panipuri wallah (คนขายปานิปุริ) แต่ละคน เวลากินอาหารว่างชนิดนี้ เขาจะเจาะรูลงไปที่ตัวแป้งก่อน จากนั้นยัดมันฝรั่งและถั่วลูกไก่ใส่เข้าไปตามด้วยเทน้ำซอสผสม จากนั้นจึงค่อยกัดทั้งหมดเข้าปากพร้อมกัน

เคยไปยืนดูคนอินเดียทำให้ลูกค้ากินตามข้างทาง ครั้งแรกที่เห็นก็นึกสองจิตสองใจเหมือนกันว่าควรจะซื้อกินไหมเพราะกลัวท้องเสีย เห็นสองมือขะมุกขะมอมที่เจ้าของรถเข็นหันไปจับนั่นจับนี่แล้วไม่ค่อยจะไว้ใจเลยแต่สุดท้ายก็ต้องลองเพราะอยากรู้ ซึ่งนี่ล่ะคือสเน่ห์ของสตรีทฟู้ดแบบอินเดีย ยิ่งติดดินเท่าไหร่ยิ่งท้าทาย

Panipuri  ถูกหยิบมาเล่าใหม่ที่ Ms. Maria & Mr. Singh ด้วยรูปแบบของอาหารรองท้องที่ใช้ชื่อเมนูว่า Golguppa Puffed Masa ตามวิธีการเรียกของคนอินเดียทางภาคเหนือที่เรียก Golguppa แทนคำว่า Panipuri  

Golguppa (โกลกัปปา) ร้านนี้มาในรูปแบบของแป้งข้าวโพดอบกรอบยัดไส้มันฝรั่งผสมด้วยเครื่องเทศ เสิร์ฟมากับน้ำสมุนไพรสีเขียวๆ ในแก้วช็อต (herb shot) เวลากิน เขาให้ดื่มน้ำสมุนไพรตามหลังจากที่กัด Golguppa เข้าปากแล้ว แต่ถ้าจะให้ได้รสชาติในแบบวิธีกินของคนอินเดีย ต้องยกแก้วเทน้ำสมุนไพรใส่ลงไปในตัวแป้งเลยและค่อยกัดเข้าปาก เวลาเทอาจมีเลอะเทอะบ้าง แต่ก็ได้อารมณ์ไปอีกแบบ นี่หลับตากินนึกว่าอยู่อินเดีย

Ms. Maria & Mr. Singh เป็นร้านอาหารอินเดีย-เม็กซิกันในเวอร์ชั่นแบบแคสชวลเข้าถึงง่ายของเชฟกากั้น อนันต์ (Gaggan Anand) เชฟชาวอินเดียคนแรกที่ได้รับมิชลิน 2 ดาว เชฟกากั้นขึ้นชื่อในเรื่องของการคิดค้นอาหารโดยการเอาหลักการทางวิทยาศาสตร์เข้ามาประยุกต์เพื่อพัฒนาอาหารที่แปลกใหม่ เป็นเชฟที่มีความภูมิใจในรากเหง้าของตัวเองและก็ตะโกนความภูมิใจเหล่านั้นออกมาผ่านอาหารให้ทั่วโลกได้ยิน บ้านเกิดของเชฟกากั้นอยู่ที่เมืองโกลกาตา สวรรค์ของคนรักสตรีทฟู้ด

“ผมพยายามนอนให้มากขึ้น ไปส่งลูกที่โรงเรียน และทำอาหารที่บ้านให้มากขึ้น”

ประโยคนึงที่เชฟกากั้นเคยให้สัมภาษณ์กับมิชลินไกด์ไว้ในช่วงที่ตัวเลขอายุแตะ 40  มันเป็นประโยคที่ธรรมดามากแต่ก็บอกอะไรมากด้วยเช่นกัน สุดท้ายแล้วความสุขที่จริงแท้และเรียบง่ายที่สุดของผุ้ชายคนนึงก็เป็นเพียงการมีสุขภาพที่ดี เป็นพ่อที่ดี เป็นหัวหน้าครอบครัวที่ได้ใช้เวลาคุณภาพไปกับการทำอาหารให้คนที่บ้านกิน

พูดถึงราคาอาหารของเชฟกากั้นซึ่งเป็นเชฟระดับโลก แน่นอน เป็นที่รู้กันว่าราคาอาหารของเชฟคนนี้สูงตามประสบการณ์ชีวิต เพราะอาหารแต่ละจานที่ถูกสร้างสรรค์ขึ้นโดยเชฟกากั้นนั้นเป็นเหมือนผลงานทดลองของนักวิทยาศาสตร์จากห้องแล็บชั้นสูง มันใช้เวลาใช้ทุนและการรอคอย ถ้าใครอยากลองชิมอาหารในรูปแบบเชฟเทเบิลของเชฟกากั้น ให้ไปที่ร้าน Gaggan Anand  สุขุมวิทซอย 31

ส่วนราคาอาหารของ Ms. Maria & Mr. Singh อยู่ในระดับที่เข้าถึงง่ายกว่า บรรยากาศร้านทำให้เรารู้สึกสนุกเป็นกันเอง โดยอาหารอินเดียและอาหารเม็กซิกันมีจุดเชื่อมโยงกันในเรื่องของสีและเครื่องเทศ ซึ่งเชฟกากั้นหยิบอาหารสองสัญชาตินี้มาเล่าผ่านความโรแมนติกของ storytelling ที่ว่าด้วยการพบรักระหว่างนางสาวมาเรีย ชาวเม็กซิกัน กับนายซิงห์ ชาวอินเดียซึ่งทั้งคู่เป็นคนชอบทำและชอบกินอาหาร พอได้มารู้จักกันก็เกิดการแลกเปลี่ยนแพสชั่น นำมาซึ่งการผสมผสานทางวัฒนธรรมอาหารจนเกิดเป็นเมนูหน้าตาแปลกใหม่ที่คงไว้ด้วยประวัติศาสตร์ในที่มา

เราสั่งอาหารมาทั้งหมด 6 จาน กินสองคน จ่ายค่าอาหารไปสามพันบาท เราว่ามันเป็นราคาที่สมเหตุสมผลมากกับสิ่งที่ได้รับ ใครไม่เคยกินอาหารเม็กซิกันหรืออาหารอินเดียมาก่อน ให้ลบสิ่งที่เคยได้ยินมาทั้งหมดและลองไปกินที่ร้านนี้ มันกินง่าย ไม่ต้องตีความอะไรให้วุ่นวาย จานที่กินแล้วจำรสชาติได้แม่นจนถึงวันนี้คือ Patrani whole fish tamal ปลาคลุกเครื่องเทศอินเดียด้วยวิธีการคลุกแบบเม็กซิกันและห่อด้วยใบตอง ( Tamal) กินกับ Basmati Rice (ข้าวอินเดีย) เห็นข้าว Basmati แล้วนึกถึงหนังอินเดียเรื่องนึงชื่อ Basmati Blues เป็นหนังมิวสิคัลที่พูดถึงข้าวชนิดนี้ผ่านความสัมพันธ์ของนักวิทยาศาสตร์หญิงชาวตะวันตกกับพระเอกชาวอินเดียจากท้องไร่ อารมณ์คล้ายๆ กับหนังมนต์รักลูกทุ่งบ้านเรานั่นล่ะ

เกซาดิย่า ( keema quesadilla / Paneer quesadilla) เป็นอีกจานที่ไม่รีรอเลยในการตัดสินใจสั่ง กัดเกซาดิย่าคำแรกเข้าปาก ภาพของคุณป้าขายเกซาดิย่าที่กำลังนาบแผ่นแป้งไว้บนกระทะเตาถ่านตรงหน้าทางเข้าตลาดในหมู่บ้านทอผ้าของรัฐวาฮาก้า เม็กซิโก ก็ลอยขึ้นมาในหัวเราทันที รสชาติมันไม่ได้เหมือนกันหรอก ไส้ที่ใส่ลงไปก็ไม่เหมือนกัน ที่นั่นเขาจะนิยมใส่ชีสของพื้นถิ่นและดอกฟักทอง แต่มันเป็นเรื่องของโสตสัมผัสที่เมื่อเราได้กินอาหารที่เราเคยลิ้มลองจากแหล่งต้นกำเนิดมาแล้ว พอได้มากินอาหารจานเดิมจานนั้นอีกครั้ง โสตสัมผัสที่แสนมหัศจรรย์ก็จะทำงานอย่างอัตโนมัติด้วยการพาเราย้อนกลับไปหาเรื่องราวความทรงจำจากการเดินทาง

ชอบที่สุดคือขนมหวาน  Mango yuzu snow ball กัดเข้าปากคำแรกนี่ตายเลย โอย เนื้อมันนวลไปหมด ขนมบ้าอะไรทำไมอร่อยอย่างนี้ กินแล้วเคลิ้ม มันคือไวท์ช็อกโกแล็ตมูสผสมด้วยซอสเข้นข้นจากเนื้อมะม่วงและส้มยูซุ คนเป็นเนื้อเดียวกัน เอาไปใส่โมผ่านไนโตรเจนจนเกาะตัวแข็ง

กินแล้วจำ มันเป็นแบบนี้นี่เอง

Ms. Maria & Mr. Singh : เอกมัยซอย 6 (ตรงเข้าไปสัก 100 เมตร ร้านอยู่ขวามือ)

Line Official : @mariaandsingh  /  091 698 6688

มื้อกลางวัน 11.30 น. -14.00 น. / มื้อเย็น 17.30 น. -23.00 น.

https://www.facebook.com/Ms.MariaAndMr.Singh/

Leave a Reply

Fill in your details below or click an icon to log in:

WordPress.com Logo

You are commenting using your WordPress.com account. Log Out /  Change )

Twitter picture

You are commenting using your Twitter account. Log Out /  Change )

Facebook photo

You are commenting using your Facebook account. Log Out /  Change )

Connecting to %s