วันก่อนไปทำเรกิกับพี่ตุ้ม (จามีล่าห์ ปรีณัน นานา) มา พี่ตุ้มเป็นผู้หญิงที่ใช้ชีวิตในวิถีแบบฮิปปี้มาโดยตลอด อยู่ไม่เป็นที่เป็นทาง แต่ก็นั่นล่ะ มันคือชีวิตที่เธอเลือกแล้ว แต่ก่อนพี่ตุ้มเปิดโยคะสตูดิโอชื่อ SoulMade Yoga & Tearoom แถวเอกมัย จนวันนึงพี่ตุ้มเล่าให้ฟังว่าเกิดอาการโดน calling (เสียงเรียก)

Calling ที่ว่านี้ คือเสียงจากเกาะ Corfu ในประเทศกรีซ เป็นเสียงที่เกิดขึ้นในช่วงระหว่างที่พี่ตุ้มกำลังวางแผนชีวิตให้กับตัวเองภายหลังจากตัดสินใจปิดธุรกิจ SoulMade
“เอาล่ะ ฉันไม่รู้ว่าชีวิตต่อไปของฉันจะเป็นยังไง แต่รู้ว่าต้องเดินทางไปไหนสักที่ที่ฉันจะได้มีโอกาสแสวงหาและแบ่งปันวิชาความรู้ของฉัน ฉันจะให้เวลากับตัวเอง 3 ปีในการใช้ชีวิตแบบล่องลอยไร้หลักแหล่งเพื่อตามหาที่ที่เป็นของฉันจริงๆ”
เสียง calling ที่ดังขึ้นในอากาศและมีเพียงพี่ตุ้มเท่านั้นที่ได้ยิน พาพี่ตุ้มไปเจอกับผู้จัดการบาร์บนเกาะ Corfu ซึ่งอีกอาชีพของผู้ชายคนนี้คือ Sound Healer (นักบำบัดด้วยเสียง) เกิดเป็นการทำงานร่วมกันในรูปแบบของเวิร์กช็อปเพื่อการรีทรีตบนหาดทรายของเกาะ Corfu ที่บรรยากาศของเกาะนี้มีความโลว์คีย์แต่ก็ผสมด้วยความเจริญเล็กๆ ในรูปแบบของเกาะเพื่อการท่องเที่ยว

โดยปกติเรกิเขาจะทำกันประมาณหนึ่งชั่วโมง แต่เราโดนเข้าไปสองชั่วโมง สงสัยพลังงานขยะในตัวจะเยอะจัด หลังทำแล้วรู้สึกตัวเบา กลับบ้านนอนหลับสนิท รู้สึกดีกับตัวเองมากๆ การทำเรกิทำให้เข้าใจจุดอ่อนของตัวเองมากขึ้น
เรกิเป็นศาสตร์บำบัดด้วยพลังงานธรรมชาติ (Energy healing) โดย Healer ( ผู้บำบัด) จะเป็นผู้เชื่อมโยงพลังธรรมชาติที่บริสุทธิ์เข้ามาที่ตัวเราด้วยฝ่ามือสองข้างวางลงไปบนจักระต่างๆ ของเราในช่วงขณะที่เรากำลังนอนราบอยู่บนเตียงบำบัด ตำแหน่งละประมาณ 5 – 10 นาที เพื่อกำจัดพลังงานสกปรกที่อยู่ในตัวเราออกไป แต่จะสกปรกมากหรือน้อย อันนี้ขึ้นอยู่กับพื้นฐานชีวิตของแต่ละคนว่าผ่านอะไรมาบ้างหรือมีเรื่องราวชีวิตแบบไหน


พูดง่ายๆ คือในชีวิตคนๆ นึง เราอาจจะเก็บสะสมพลังงานที่ไม่ดีไว้ในตัวมากมายเต็มไปหมด ทั้งรู้ตัวบ้างไม่รู้ตัวบ้าง พอนานเข้าพลังงานเหล่านี้ก็ถูกสะสมจนกลายเป็นขยะอุดตัน ทำให้เราไม่มีพื้นที่ว่างพอที่จะเปิดรับสิ่งดีๆ เข้ามาในชีวิตเลย บ้างก็หมักหมมจนกระทั่งเป็นความเครียดความป่วย บางทีกราฟอารมณ์ขึ้นๆ ลงๆ เดี๋ยวเหวี่ยงเดี๋ยวดาวน์เหมือนคลื่นทะเลที่ไม่เคยสงบสักที ซึ่งเราเองก็ไม่เคยหาคำตอบให้กับตัวเองได้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับฉันนี่ ขณะที่บางคนซึ่งรู้จักตัวเองดีก็อาจจะพอเข้าใจเหตุผลอยู่บ้าง แต่ก็ไม่รู้ว่าจะจัดการกับพลังงานขยะเหล่านี้ให้ออกจากตัวไปได้ยังไง ซึ่งมันสำคัญมากที่เราต้องหาโอกาสเคลียร์พื้นที่และจัดการพลังงานที่ไม่ดีเหล่านี้ออกไปเพื่อให้ร่างกายได้มีพื้นที่ว่างในการเปิดรับเรื่องราวดีๆ เข้ามา และนี่ล่ะคือหน้าที่ของ Healer ( ผู้บำบัด) ที่จะเป็นคนจัดการสื่อสารกับพลังงานธรรมชาติให้เรา นำไปสู่การปรับสมดุลทั้งส่วนของร่างกายอารมณ์ความคิด และลึกเข้าไปถึงชั้นจิตวิญญาณ
ส่วนเราไม่ต้องทำอะไร แค่นอนอยู่เฉยๆ บนเตียง ปล่อยใจให้ว่าง

ยิ่งถ้าผู้รับการบำบัดเป็นคนที่เปิดใจในการรับการรักษาด้วยแพทย์ทางเลือกศาสตร์นี้มากพอ ในช่วงระหว่างการบำบัด เรายังอาจได้พบความลับที่ซ่อนอยู่ในตัวเอง รู้จักตัวเอง ทันตัวเองมากขึ้น สำคัญคือรู้ว่าจากนี้เราจะรับมือกับตัวเองอย่างไรเพื่อให้ตัวเองมีความสุข
ความสุขเป็นเรื่องง่าย ถ้าเรารู้วิธีจัดการกับความอ่อนแอที่ซ่อนอยู่ภายใน

Healing Muse Jamilah
Alternative & Holistic Health Service
: สุขุมวิท ซอย 16 / 063 692 4515